"เสน่ห์ของต้มข่าไก่คือรสชาติเข้มข้นอย่างต้มยำ แต่ละมุนกว่า
ด้วยปรุงจากน้ำกะทิ รสชาติออกเปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อม หอมมันกะทิ
แต่ไม่เลี่ยนเกินไป ลักษณะต้มข่าที่ดีคือน้ำกะทิต้องไม่แตกมัน
นิยมใช้เนื้อสัตว์ที่ไม่มีมันมาก เช่น เนื้อไก่ส่วนอก หรือเนื้อปลา เป็นต้น"
ส่วนผสม
(สำหรับ 2 คน)
- หางกะทิ 250 มล.
- ข่าอ่อนหั่นแว่นบาง 15 กรัม
- ตะไคร้หั่นแฉลบ 15 กรัม
- ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
- เห็ดนางฟ้า 50 กรัม
- เนื้ออกไก่หั่นชิ้นพอคำ 180 กรัม
- หัวกะทิ 200 มล.
- เกลือสมุทร 3 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 กรัม
- พริกขี้หนูสวนบุบพอแตก 5 กรัม
- น้ำมะนาว 30 มล.
- ผักชีเด็ดใบสำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. ตั้งหม้อใส่หางกะทิบนไฟกลาง พอเดือดใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เห็ด และไก่ลงต้มนานประมาณ 1-2 นาที พอเดือด
อีกครั้งใส่หัวกะทิ ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาล คนพอเข้ากัน ตามด้วยพริกขี้หนู ปิดไฟ ยกลง ใส่น้ำมะนาว คนพอเข้ากัน
(หากใส่น้ำมะนาวตอนตั้งไฟจะทำให้น้ำต้มข่ามีรสขม) ชิมให้ได้รสเปรี้ยว หวาน เค็ม มัน กลมกล่อม หรือชิมรสตามชอบ
2. จัดเสิร์ฟโดยตักต้มข่าไก่ใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยผักชี เสิร์ฟร้อนๆ
เกี่ยวกับต้มข่าไก่
- มะพร้าวขูด (1 กิโลกรัม) นวดจนมีน้ำออกมาก กรองผ่านผ้าขาวบาง จะได้เป็น “หัวกะทิ” ส่วนหางกะทิ
- น้ำมะพร้าวขูดที่คั้นหัวกะทิแล้วมานวดกับน้ำอุ่นปริมาณ 1½ ถ้วย
- การคั้นหางกะทิสามารถคั้นได้จนกะทิหมดมัน สังเกตจากน้ำที่คั้นเริ่มใส มะพร้าวแกงส่วนมากจะคั้นได้ไม่เกิน 3 ครั้ง
- ส่วนที่ไม่ควรรับประทาน เช่น ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด
- อาจใส่กะหล่ำปลีหรือผักชนิดอื่นๆ แทนเห็ดได้